Sam Nuttapong

December 8, 2017

ณ วันที่วิ่งเข้ามาที่นี่คือมีปัญหาจริงๆ คือคะแนน writing มันไม่ 6 สักที พอดีมีคนในเพจ ช่วยกันติว IELTS เค้าแนะนำมาว่าเออเค้าเรียนแล้วคะแนนมันดีขึ้นอะนะ ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วอะตอนนั้นเลยตัดสินใจลงเรียนไปซะรวมๆเวลาที่ใช้เรียน และฝึกฝนก็ราวๆ 3-4 อาทิตย์ก่อนจะไปสอบอีกครั้ง ซึ่งรู้สึกโอเคมากที่ตัดสินใจจ่ายเงินมาเรียน มันเหมือนมันมีคนช่วยจับมือเราเขียน เค้าทำให้เราเชื่อว่าเราทำมันได้ มันมีแรงใจมากขึ้นในวันที่สภาพกายเยินพอสมควรจากที่ทำงาน มันเหนื่อยเหมือนกันนะ ทำงานไปด้วยศึกษาด้วยตัวเองไปด้วย แบ่งเวลาไป listening, reading ด้วยนี่ก็ยิ่งเครียดปัญหาชีวิตรุมเร้า

ด้วยความที่สถาบันเล็กกะทัดรัดเลยทำให้เราสามารถพูดคุยกับทุกๆคนได้ราวกับเป็นมิตรสหาย มันเลยทำให้เราสบายใจเวลามานั่งบ่นเรื่องเครียดให้ฟัง บางอันพี่เค้าช่วยได้เค้าก็ช่วย อยากได้อะไรก็บอก มีพี่มีน้องจากคอร์สอื่นๆมานั่งเล่นให้ได้ทักทายรู้จักเพื่อนใหม่ๆก็เพลิดเพลินคลายเครียดกันไป

เราว่าเราควรเลือกโรงเรียนที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก กลุ่มที่เรียนด้วยมีขนาดเล็ก ซึ่งมันได้อารมณ์เรียนส่วนตัวมากถึงมากที่สุด ทำให้ระยะห่างระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนมันไม่เยอะ แล้วเราก็จะได้สิ่งที่เค้าอยากจะให้ได้เต็มที่ ตอนเราเรียนที่นี่มันเป็นแบบนี้นะเราก็ยังรู้สึกขอบคุณคนที่แนะนำเรามาอยู่เลย ทำให้เราพัฒนาทักษะที่เราเกลียดมาก ซึ่งเอาจริงเด็กไทยส่วนใหญ่ก็เกลียดกลัวกันหมด จนสามารถได้คะแนนที่เราอยากได้ในเวลาอันสั้น แต่สุดท้ายนี้ก็ต้องยอมรับว่าผู้เรียนเองเป็นส่วนสำคัญมากในการศึกษา เรายังนั่งคุยกับ Steve อยู่เลยว่ามาเรียนแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ วันละไม่กี่ชั่วโมงแล้วมาคาดหวังการพัฒนาแบบก้าวกระโดด มันก็ปาฎิหาริย์อยู่นะ มันต้องเรียนให้เป็นอะ ขยันมากอะไรมากมันก็ได้ดี ตรงไปตรงมาอะ เหนื่อยแหละแต่ก็ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆอะ อย่ายอมแพ้นะคะ